จีน-เวียดนาม ความสัมพันธ์ “ทั้งรักทั้งเกลียด”

จีน-เวียดนาม ความสัมพันธ์ “ทั้งรักทั้งเกลียด”

สืบเนื่องจากประเด็นร้อน จนเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในเวียดนามเรื่องมติร่าง กม.เปิดทางต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี  จนเกิดกระแสต่อต้านจีนในเวียดนามรอบใหม่ เพราะหลายฝ่ายตีความว่ากฏดังกล่าวเป็นการอื้อผลประโยชน์แก่จีน

แอดว่าประเด็นนี้น่าสนใจเพราะเวียดนามกับจีนมีความสัมพันธ์กันในหลายมิติ แถมเวียดนามเองก็ยึดเอาจีนเป็นโมเดลในการพัฒนาประเทศในหลายๆ ด้าน
แอดจึงสรุปเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับจีนและเวียดนาม รวมถึงความสัมพันธ์ “ทั้งรักทั้งเกลียด”มาเล่าให้ฟังเป็นข้อๆ  ดังนี้ค่ะ

——–
Overview Cr.Workpoint
——–

1. พื้นที่ “จีน” ใหญ่กว่า“เวียดนาม ”= 29 เท่า
ประชากร “จีน” มากกว่า“เวียดนาม ”= 35 เท่า

2. “จีน” มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ พื้นที่กว้างขวาง จำนวนประชากรที่มากเป็นอันดับ 1 ของโลก พรมแดนของประเทศจีนติดกับ 15 ประเทศ
หนึ่งในนั้นคือ “เวียดนาม”

3. ชาวเวียดนามเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์จีนเป็นเวลานานถึง 2,000 ปี

4. เวียดนามได้รับอิทธิพลจากจีนทั้งทางวัฒนธรรม ศิลปะ สถาปัตยกรรม รวมถึงการปกครองการเมืองระบอบคอมมิวนิสต์ ที่ทำให้ทั้งสองประเทศมีระบบเศรษฐกิจแบบกลไกตลาดเหมือนกัน

5. แม้ว่าจีนและเวียดนามจะเป็นเหมือนพี่น้องกัน ทว่าความสัมพันธ์กลับไม่ราบรื่น
จาก 2 เรื่องสำคัญคือ
(1)  กระแสชาตินิยมต่อต้านจีนของชาวเวียดนาม อันเป็นผลมาจากความขมขื่นในอดีตที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจหลายพันปี
(2) ถึงความขัดแย้งกับจีนในทะเลจีนใต้ ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่เนืองๆ นำมาสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรง จนเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ ที่รัฐบาลเวียดนามต้องตัดสินใจเข้าปราบปรามผู้ชุมนุม

6. การเป็นศัตรูกับจีนคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
จีนก็เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในเวียดนาม
เลขาธิการพรรค เหงียน ฝู จ็อง แห่งเวียดนามจึงมีการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคม 2017 ซึ่งถือเป็นการเยือนในเชิงสัญลักษณ์เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์เวียดนาม-จีน นับแต่ที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศตกต่ำลงจากเหตุการณ์ขุดเจาะน้ำมัน HYSY-981

——–
News update: จีน-เวียดนาม ปัญหาความสัมพันธ์ จากร่างกฎหมายพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ
Cr.BBC
——–

7. ร่างกฎหมายพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว มีเป้าหมายกระตุ้นการพัฒนาใน 3 จังหวัดทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของเวียดนาม  โดยสิ่งที่เป็นความตั้งใจจะให้เกิดขึ้นคือทำให้พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษทั้งสามเขตเป็นเหมือน “สิงคโปร์ย่อย ๆ” ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุน พร้อมเพรียงไปด้วยศูนย์กลางเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยร่างกฎหมายพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษจะอนุญาตให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี ซึ่งบางฝ่ายกังวลว่านักลงทุนจีนจะเข้ามาถือครองที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว

8. แต่! นายกรัฐมนตรีเวียดนามนึกไม่ถึงว่าประชาชนยังมีความรู้สึกต่อต้านจีนอยู่มาก และก็ไม่ได้คาดการณ์ว่าการใช้โซเชียลมีเดียจะช่วยให้การประท้วงเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพขนาดนี้

9. จากเหตุประท้วงนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม บอกว่าจะลดช่วงระยะเวลาการเช่าลง แต่ไม่ได้ระบุว่าเท่าไหร่

10. ผู้ประท้วงกว่าร้อยคนถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ

11. การประท้วงถือเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายที่สุดที่เกิดขึ้นกับนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นับตั้งแต่รัฐบาลของเขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อสองปีที่ผ่านมา

——–
คหสต. แอด
——–
เพื่อนชาวเวียดนามของแอดบางคนพอพูดถึงจีนก็จะมีบ่นๆ ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ รวมทั้งสินค้าจีนไม่มีคุณภาพ (สู้ไทยไม่ได้)  และข่าวลือลบๆ ต่างๆ
ซึ่งแอดว่าก็เป็นข้อได้เปรียบสำคัญธุรกิจไทยที่ขยายไปยังเวียดนาม เพราะคนเวียดนามส่วนใหญ่ชอบสินค้าไทย เที่ยวไทย บริการต่างๆ จากไทย มากกว่าจีน

มิติการเมืองเศรษฐกิจ: ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามก็พยายามเจริญสัมพันธ์ที่ดีกับจีนมากกว่าเดิม เพราะจีนเองก็เป็นทั้งคู่ค้าขายที่สำคัญและผู้ลงทุนรายใหญ่ในเวียดนาม

เหตุการณ์ประท้วงครั้งนี้อาจดูเป็นเรื่องลบ
แต่แอดกลับรู้สึกถึงการพัฒนาและเปิดกว้างในการแสดงความเห็นของประชาชนในประเทศคอมมิวนิสต์อย่างเวียดนามมากขึ้น
รัฐบาลเค้าก็แคร์คนในประเทศจนต้องเลื่อนการลงมติร่างกฏหมาย
และคนเวียดนามเองก็กล้าประท้วงในสิ่งที่เค้าเชื่อโดยไม่กลัวรัฐบาลเหมือนแต่ก่อน
ดังนั้นการที่เวียดนามจะกลับไปปิดประเทศ หรือปิดกั้นมากๆ แบบเดิมอย่างที่นักลงทุนบางท่านกังวลคงยาก  (ประชาชนคงไม่ยอม และรัฐบาลก็คงไม่กล้าทำ)

สุดท้ายจีนและเวียดนามก็เหมือนลิ้นกับฟันที่ต้องกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา แต่โลกเปลี่ยนไปมาก และทุกชาติก็มองผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก
เมื่อวานนี้“คิม จองอึน”ผู้นำเกาหลีเหนือ ยังจับมือ “ทรัมป์”ผู้นำอเมริกาได้
# โลกนี้ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร

—

Credit: https://www.bbc.com/thai/international-44443509?ocid=socialflow_facebook

Workpoint: https://goo.gl/4pc2SX