UPDATE หุ้นเวียดนามรายอุตสาหกรรม 2019

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นักลงทุนหุ้นเวียดนามทุกท่าน

วันนี้จะเป็นต่อจากภาคแรก ที่เรานำเสนอภาพรวมของตลาดเวียดนามไปนะคะ คราวนี้เราจะมาว่ากันเรื่องภาพรวมในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับปี 2019 และเป็นภาคจบของซีรีย์นี้ค่ะ แอดอยากจะแชร์ข้อมูลเพื่อให้เพื่อนๆนักลงทุนเวียดนามที่ได้เข้าถึงข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ และนี่คือจดมุ่งหมายที่เราทำสรุปนี้ขึ้นมาค่ะ

ชอบกด Like ใช่กด Love เป็นกำลังให้คนทำเพจกันเยอะๆนะคะ ^^ ขอบคุณค่า
.
.
Banking Sector
ทาง Viet Cap คาดการณ์ว่ากำไรของกลุ่มแบงค์จะโตประมาณ 23% (หรือประมาณ 26% แบบ normalization basis) โดย EPS growth จะโตประมาณ 17.4% และมี NIM เพิ่มขึ้นเป็น 7 bps ในปี 2018, และเพิ่มเป็น 9 bps ในปี 2019 เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของ policy rate ในปีนี้ และ credit growth เฉลี่ยประมาณ 14.6%
นอกจากนี้ตลาดยังไม่ได้ให้ค่ากับความสามารถในการกลับรายการหนี้สินที่เคยถูก write-off ไปแล้ว ตาม Resolution 42/2017/QH14 ซึ่งรายรับตรงส่วนนี้ มีมูลค่าโดยเฉลี่ยประมาณ 8.6% ของรายรับทั้งหมดของกลุ่ม
ในส่วนของภาพรวมของการตั้งสำรองหนี้เสียนั้น มีแนวโน้มที่ลดลง จาก 1.34% ของเงินกู้ที่ปล่อยไปทั้งหมด ในปี 2018 เป็น 1.25% ในปี 2019 แสดงถึงคุณภาพในการปล่อยกู้ที่ดีขึ้น Net fee income growth ยังโตได้จากการที่เริ่มมีการขายประกันผ่านสาขาของธนาคาร

ส่วนเรื่องการห้ามถือหุ้นข้ามธนาคารกันเกิน 2 แห่งตามที่มีข้อกำหนดออกมานั้น เริ่มแก้ไขกันจนคลี่คลายไปเยอะแล้ว
.
.
Securities Sector
จะมีการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติการซื้อขายหลักทรัพย์ ฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าทาง Nation Assembly จะอนุมัติผ่านร่างในเดือนพฤศจิกายน 2019 และมีผลบังคับใช้กลางปี 2020 ซึ่งจะส่งผลให้เพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดเวียดนามมากขึ้น โดยทาง Viet Cap คาดว่าจะมี free float market cap เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 18% ในช่วงเวลา 2-3 ปีนี้ ส่งผลให้ค่าคอมมิชชั่นโดยรวมของโบรกเกอร์เพิ่มขึ้นด้วย ประมาณ 14.3% ค่ะ

อีกประเด็นนึงที่น่าสนใจคือ การหา solution ในการไปทำ DR (Depository Receipt) ของ VFM ที่ทำกับตัว ETF VN30 กับประเทศไทย (ผ่านทาง E1VFVN3001) และประเทศเกาหลีใต้ (ผ่านทาง KRX) นั้น นับเป็นการช่วยเพิ่มเงินไหลเข้าตลาดเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากผู้ถือหน่วย DR จะยังคงได้รับสิทธิประโยขน์ เสมือนเป็นผู้ถือ ETF VN30 (เช่นยังได้รับเงินปันผล เป็นต้น) โดยที่ธุรกรรมดังกล่าวไม่เข้าข่ายที่จะต้องนับเป็น FOL ทำให้มองว่า ยังเป็นที่นิยมต่อเนื่อง และ VFM อาจจะขยายไปทำกับประเทศอื่นอีกด้วย
.
.
Insurance Sector
ประกันชีวิต ยังคงเป็น growth story ของ sector นี้ และมองว่าพรีเมี่ยมค่าประกันชีวิตน่าจะโตได้อีกถึง 20% CARG โดยที่สามารถมีระดับ penetration ได้ถึง 2.44% ของ GDP ภายในปี 2023 ประกอบกับโอกาสที่จะกำหนดให้ผู้ที่ซื้อกองทุนบำนาญจะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งทางเวียดนามจะเริ่มปฎิรูปในปีนี้
.
.
Consumer Sector
มองแนวโน้มรายได้ของชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อมี FDI ไหลเข้าประเทศ มีการสร้างโรงงาน สร้างตำแหน่งงานทำให้กำลังการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนในเมืองมีมากขึ้น สังเกตได้จากการเติบโตของห้างโมเดริน เทรด, และค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องประดับและรถยนต์เพิ่มขึ้น

แต่ว่าผลกระทบจากปรากฎการณ์ El Nino จะไปกระทบกับผลผลิตด้านการเกษตรและทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง ไปดึงกำลังการบริโภคในส่วนนี้ลง
.
.
Industrial & Transportation
ยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากการ urbanization หรือเข้าสู่สังคมเมือง โครงการถนน และ infrastructure ต่างๆ ดำเนินไปอย่างล่าช้า
ด้านการบินตอนนี้มีโครงการก่อสร้างรออยู่หลายโครงการเนื่องจากผู้โดยสารต่างชาติล้นความสามารถในการรองรับของสนามบิน ไม่ว่าจะเป็น Terminal 3 ใน HCMC, Long Thanh International airport ด้านการเติบโตของผู้โดยสารต่างชาติตอนนี้ประมาณ 14% ลดลงเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนก็ไปเวียดนามลดลงเช่นกัน (ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่เดียวนะคะ) สำหรับเวียดนามแล้ว นักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด รวมไปถึงคาดว่ารันเวย์ของสนามบินหลัก 2 แห่งต้องปิดซ่อมหลายเดือน ซึ่งน่าจะมีแผนรับมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับการแข่งขันของสายการบิน Low cost ในปีนี้จะมีคู่แข่งเข้ามาเพิ่มนั่นคือ Bamboo Airlines กับ AirAsia ค่ะ
.
.
Real Estate
ภาพรวมของตลาดอสังหา จากข้อมูลของ CBRE เวียดนามพบว่า บ้านหรือคอนโดลดลง ทำให้ภาพรวมของการขายลดลงด้วย เนื่องจากการที่ขออนุญาตสร้างโครงการใหม่ๆ ดำเนินการไปได้ช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะใน HCMC นอกจากนี้ยังพบว่า ความต้องการบ้านใหม่ใน Hanoi ลดลง แต่เป็นผลมาจากการที่คนทาง Hanoi หันมาซื้ออสังหาใน HCMC เพิ่มขึ้น

สำหรับ sector นี้จะมีตัว drivers หลักๆได้แก่: รายได้ที่เพิ่มชึ้นของชนชั้นกลาง , การเข้าสู่สังคม urbanization และการปรับตัวจากการซื้อเงินสด ไปสู่ mortgage ค่ะ
.
.
Construction and Materials
ปีนี้ยังคงเป็นปีที่ท้าทาย (อาจจะถึงยากลำบาก) เพราะโครงการอสังหา รวมไปถึง infrastructure ต่างชะลอ และไม่เป็นไปตามแผนเนื่องจากปัญหาการเวนคืนที่ดินที่ล่าช้า รวมไปถึง cost overrun (ต้นทุนสูงกว่าที่ประมาณการไว้)
ราคาขายเหล็กในปีนี้จะเหวี่ยงมากขึ้นด้วย ส่วนอุตสาหกรรมปูนซีเมนท์ตอนนี้ก็มีปัญหา over supply ค่ะ

.
.
Oil & Gas, Petroleum and Power Sector
ทางเวียดนามมองว่า ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ USD 65/barrel (spot price USD 53/ barrel) ส่วน Petro Vietnam จะเริ่มพัฒนาโครงการที่เกี่ยวกับ gas (เม็ดเงินลงทุนประมาณ USD 14 bn) และการนำเข้า LNG (เม็ดเงินลงทุนประมาณ USD 5 bn) ด้านโรงกลั่น Nghi Son Refinery ในภาคเหนือของเวียดนาม เริ่มมีการดำเนินงานเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และส่งผลให้การนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลง และกระตุ้นการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในประเทศค่ะ ส่วนทางภาคใต้จะเป็นโรงกลั่น Bihn Son Refinery

สุดท้าย ในด้าน Utilities อย่างไฟฟ้า พบว่าในอนาคตอันให้นี้เวียดนามจะประสบปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน ทาง Viet Cap มองว่าเป็นโอกาสให้สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมไปถึงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกด้วยค่ะ โดยข้อมูลจาก EVN ระบุว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าของเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 10%-11% ต่อปีในช่วง 2019-2022 ในขณะที่ความสามารถในการผลิตไฟ โตเพียง 8% เท่านั้น

สำหรับ guidance ของการปรับขึ้นค่าไฟในตลาด CGM (Competitive Generation Market) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% ไปอยู่ระดับ VND 1,319/kWh ในปี 2019 นี้ค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้ง CGM เมื่อปี 2012

ในระยะสั้น ทาง Viet Cap มองว่าเวียดนามจะประสบปัญหาขาดแคลน gas และ ถ่านหิน ค่ะ ซึ่งจะเป็นข้อจำกัดของโรงไฟฟ้าก๊าซ ที่จะไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่

ส่วนการแก้ปัญหาขาดแคลนถ่านหิน พบว่ารัฐบาลได้อนุญาติให้ Vinacomin (ขาใหญ่ถ่านหิน) ของเวียดนามนำเข้าถ่านหินคุณภาพสูงได้ รวมทั้งอนุญาติให้ EVN นำเข้าถ่านหินคุณภาพสูงได้เองด้วย เพื่อลดปัญหาราคาถ่านหินสูงเกินควรจากการขายแบบ monopoly ของ Vinacomin ค่ะ

หวังว่าข้อมูลภาพรวมเบื้องต้น จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

Credit: Viet Capital Securities – VCSC
แอดมินเป้