.
ในปี 2560 ไทยเบฟเวอเรจกรุ๊ป (ไทยเบฟ) เข้าซื้อหุ้น 54% ใน Saigon Beer – Alcohol – Beverage Corporation หรือ SABECO (HOSE: SAB) ในราคา 4.8 พันล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน Thaibev ถือหุ้นใน SAB มากกว่า 343.6 ล้านหุ้นผ่านบริษัทในเครือ Vietnam Beverage Co., Ltd. และโดยเฉพาะในปี 2565 นี้ Sabeco ได้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 3 ครั้ง
โดยในวันที่ 7 มกราคม 2565 Sabeco ได้จ่ายเงินปันผลงวดแรกของปี 2564 เป็นเงินสดในอัตรา 20% ซึ่งสอดคล้องกับผู้ถือหุ้น 1 หุ้นที่จะได้รับ 2,000 VND การชำระเงินครั้งนี้ทำให้ Vietnam Beverage ได้รับเงินปันผลมากกว่า 6.87 แสนล้านดอง
ต่อมาวันที่ 3 มีนาคม Sabeco ยังคงสรุปรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลล่วงหน้าเป็นเงินสดล่วงหน้าครั้งที่ 2 ในปี 2564 ในอัตรา 15% เท่ากับ 1,500 VND/หุ้นเป็นครั้งที่สองในปี 2565 ที่ Vietnam Beverage ได้รับปันผลมากกว่า 515 พันล้านดอง
และในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ Sabeco จะขึ้น XD เพื่อจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 25% คิดเป็นหุ้น 2,500 VND และวันที่คาดว่าจะชำระเงินคือ 11/1/2566 Vietnam Beverage คาดว่าจะได้รับเงิน 859 พันล้านดอง
ล่าสุด Sabeco ได้ประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดที่สองของปี 2565 เป็นเงินสดในอัตรา 10% เท่ากับ 1,000 VND/หุ้นวันที่ลงทะเบียนครั้งสุดท้ายคือ 3/3/2566 และวันที่ชำระเงินคือ 3/24/2566 หากจำนวนหุ้นที่ Thaibev ถืออยู่ไม่เปลี่ยนแปลงกลุ่มไทยเบฟจะได้รับเงินเกือบ 3.44 แสนล้านด่องผ่านทางบริษัทย่อย
ดังนั้นโดยรวมในปี 2565 และคาดว่าภายในสิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ไทยเบฟจะได้รับเงินปันผลมากกว่า 2,405 พันล้านดองเวียดนาม
สถิติตั้งแต่เริ่มเข้าซื้อหุ้นของ Sabeco จนถึงปัจจุบันไทยเบฟได้รับเงินปันผลรวมกว่า 7,731 พันล้านดองซึ่งตัวเลขดัวกล่าวคิดเป็นราว 7% ของเงินลงทุนที่กลุ่มไทยเบฟใช้ในการเข้าซื้อกิจการ Sabeco เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเงินปันผลที่มหาศาลนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆของเป้าหมายที่กลุ่มมหาเศรษฐีชาวไทยตั้งเป้าไว้ในการเข้าถือหุ้นบริษัทเครื่องดื่มชั้นนำในเวียดนาม
การซื้อกิจการของ SAB ทำให้ไทยเบฟเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคุณฐาปนสิริวัฒนภักดี CEO ของกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ (ไทยเบฟ) เคยยืนยันว่า “Sabeco คืออัญมณีของเรา – เป็นทรัพย์สินที่หาได้ยากในบรรดาทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ไทยเบฟยังเน้นย้ำว่าจะไม่ปล่อย Sabeco Brewery ในเวียดนามไปเด็ดขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการบริโภคเบียร์กำลังฟื้นตัวในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟูปัจจุบันเวียดนามเป็นตลาดเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโดยมีมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 และครองอันดับ 3 ในเอเชียรองจากจีนและญี่ปุ่น
ในด้านของ SAB แม้จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกฎหมายเมาแล้วขับและโควิด-19 บริษัทก็มีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งมากจนถึงตอนนี้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 SAB มีรายได้สุทธิและกำไรสุทธิ 8,600 พันล้านดอง (+102% YoY) และประมาณ 1,400 พันล้านดองซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564 เกือบ 3 เท่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภูมิหลังการเปรียบเทียบต่ำเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาด
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 SAB มีรายได้และกำไรสุทธิหลังหักภาษีที่ 24.95 ล้านล้านดอง (+44% YoY) และ 4.4 ล้านล้านดอง (+75% YoY) ช่วงเดียวกัน
.
.
ขอบคุณข้อมูล cafef.vn
.
—————————
.
.
VVI Membership คลิ๊กดูรายละเอียดและสมัครได้ที่:
