เผชิญหน้าเหยื่อ “ไลน์ ดร.นิเวศน์”

0
1121

โลกในมุมมองของ Value Investor      23 ธ.ค. 66

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

เมื่อ 2-3 วันก่อนมีคนกดออดเข้ามาพบผมที่บ้านแล้วเล่าว่าเป็นแฟนคลับและสมาชิกการลงทุนในไลน์และคุยกับผมมาตลอดเกือบทุกวัน  ที่มาก็เพื่อที่จะมาพบ “ตัวจริง ๆ”  เพื่อ “เติมเต็มความมั่นใจ” ว่า  จะยอมจ่ายเงิน  “ค่าปรับ” ให้กับหน่วยงานตลาดหุ้นของฮ่องกงจำนวนประมาณ 2 ล้านบาท  เพื่อที่จะสามารถถอนเงินจากพอร์ตหุ้นตลาดฮ่องกงของตนเองที่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมามหาศาลจากเงินต้นที่ทยอยลงไปรวมกันประมาณ 5 ล้านบาท กลายเป็นประมาณ 300 ล้านบาทเข้าไปแล้ว

เธอหรือต่อไปนี้จะเรียกว่าคุณดาว  เล่าว่า  ได้เข้าร่วมกลุ่มไลน์แนะนำการลงทุนของ “ดร.นิเวศน์” ซึ่งปัจจุบันที่เห็นก็มีสมาชิกประมาณ 40-50 คน ลดลงจากอดีตบ้าง   โดยที่เธอเข้าไปลงทุนผ่าน “แอ็ปของกลุ่ม”  ซึ่งจะนำเงินไปลงทุนในตลาดฮ่องกง  โดยได้รับการแนะนำจากดร.และผู้ช่วยตลอดเวลาในการเลือกหุ้นซึ่งจะมีหุ้นใหม่ ๆ  แทบจะ “วันละตัว”  รวมถึงการใช้เครื่องมือการเงินที่ซับซ้อนอย่างเรื่อง “เลเวอเรจ” ที่จะทำให้กำไรมหาศาลเป็นต้น

ดาวเริ่มลงทุนโดยการทยอยขายสลากออมสินและสลากธกส. ที่เคยได้รับผลตอบแทนที่ดีในอดีตที่เธออาจจะยัง “ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน” และเป็นช่วงที่ยังทำงานประจำ  แต่ตอนนี้เธอเกษียณแล้ว   จึงถึงเวลาที่จะต้องลงทุนเพื่อเก็บเงินใว้ใช้ในบั้นปลายของชีวิต  นอกจากสลากแล้ว  เธอก็จำนำทองแท่งที่เคยซื้อเก็บไว้เพื่อนำเงินมาลงทุนในหุ้นฮ่องกงด้วย  ทั้งหมดนั้นรวมแล้วน่าจะประมาณ 5 ล้านบาท

ดาวไม่เคยถอนเงินลงทุนเลย  เหตุผลก็เพราะว่า “กำไรที่เห็น” จากรายงานที่ได้รับนั้น  มันมหาศาลมากและดาวก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน  เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  ดร.แนะนำว่าต้องปล่อยให้เงินทบต้นไปเรื่อย ๆ แล้วก็จะรวย  จนมาถึงวันหนึ่ง  ดาวอาจจะเริ่มไม่สบายใจและอาจจะอยากถอนเงินบางส่วน  ก็เกิดประเด็นขึ้นว่าผู้คุมกฎของฮ่องกงตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลของการเทรดหุ้นคุณดาว  ซึ่งอาจเป็นการปั่นหุ้น  จึงตั้งค่าปรับจำนวนประมาณ 2 ล้านบาทไทย  ก่อนที่จะยอมปล่อยหุ้นหรือเงินที่อยู่ในพอร์ต  และนั่นก็นำมาสู่การอยากเจอดร.นิเวศน์  และก็เกิดอาการ “ช็อก” ว่าผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย  คนที่ดาวคุยมาตลอดนั้นไม่รู้ว่าเป็นใคร

ประวัติคุณดาวแบบคร่าว ๆ  ที่ผมคุยด้วยสั้น ๆ  นั้น  ก็คือ อายุเท่า ๆ กับผมคือ 70 ปีแล้ว  แต่ก็ยังดูแข็งแรงมาก  เพิ่งจะเกษียณจากงานพยาบาลไม่กี่เดือน  เคยทำงานพยาบาลทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนชื่อดังหลายแห่งรวมถึงที่อยู่ใกล้บ้านผมด้วย

ตอนเป็นเด็ก  เกิดในครอบครัวที่มีลูกเยอะมากเพราะเป็นรุ่นเบบี้บูมเมอร์  ครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดและยากจน  แต่คุณดาวเป็นคนที่เรียนเก่งระดับ  “เหรียญทอง” ของโรงเรียนและได้ทุนเรียนพยาบาลในสังกัดของรัฐจนจบปริญญาตรี

ดาวเป็น  “นักสู้” ที่ทำงานหนักประหยัดอดออม  และแม้ว่าจะเป็นคนที่ดูแลพ่อแม่เป็นหลัก  ก็ยังมีเงินเหลือเก็บออมในรูปทรัพย์สินต่าง ๆ  เช่นบ้าน  อาคารพาณิชย์ให้เช่า ทอง  และเงินฝากในรูปสลากของธนาคารของรัฐบาล  คิดเป็นมูลค่ารวมน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าดาวเป็นโสดไม่ได้แต่งงานซึ่งจำเป็นที่จะต้องเก็บออมและลงทุนเพื่อดูแลตนเองหลังเกษียณ

ดาวรู้จักดร.นิเวศน์ผ่านสื่อต่าง ๆ  และเมื่อได้อ่านหนังสือเรื่อง  “เด็กวัดดอน” ที่  “ดร.นิเวศน์” ส่งให้เมื่อเข้ามาร่วมในไลน์กลุ่มลงทุนเธอก็ “ปลื้มสุด ๆ”  และคิดว่า  “ชีวิตดาวเหมือนชีวิตดร.นิเวศน์” ถึงตอนนี้คุณดาวก็พร้อมที่จะรับคำแนะนำทุกอย่างจากอาจารย์และก็คงไม่สงสัยเลยว่าคนที่คุยด้วยเป็นประจำแต่ไม่เคยเจอตัวจริงนั้น  เป็นสิบแปดมงกุฎ

หลังจากพบกับผมแล้ว  คุณดาวก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป  พูดเข้าไปในกลุ่มก็เจอคนที่แก้ต่างให้ว่า  ดร.จะเปิดเผยตัวตนไม่ได้  ยอมรับไม่ได้ว่าทำการเทรดหุ้นแบบนี้คือ  “เทรดระดับสถาบัน” ต้องทำเป็นความลับ  พูดง่าย ๆ  เวลาพูดออกสื่อก็บอกว่าไม่มีไม่ทำ  แต่จริง ๆ  แล้วทำอย่างลับ ๆ  พวกเราต้องเข้าใจ

ผมเองแนะนำว่าให้แจ้งความตำรวจจับฐานหลอกลวงเลย  แต่นั่นก็จะเป็นภาระที่ค่อนใหญ่สำหรับตัวคนเดียวที่จะต้องทำเรื่องหาหลักฐานมากมาย  เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  เงินก็คงไม่ได้คืน  นอกจากนั้นดาวรู้สึก  “อายมาก” ถ้าเปิดเผยเรื่องออกมา  นึกถึงพี่น้อง  ญาติมิตร  เพื่อนและคนรู้จัก  คงจะมาสมน้ำหน้า

ที่ยังโชคดีอยู่บ้างก็คือ  ส่วนตัวคุณดาวก็ยังเหลือทรัพย์สินประมาณหนึ่งที่น่าจะเลี้ยงตนเองต่อไปได้  ว่าที่จริงก็ยังแข็งแร็งพอที่จะกลับไปทำงานได้ถ้าจำเป็น

เหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่ได้ฟังจากเพื่อนว่า  แม้แต่อาจารย์มหาวิทยาลัยดังของรัฐก็ยังเคยถูกโกงจากการฝากเงินกับสหกรณ์ที่มีชื่อเสียงมากจนแทบหมดตัวหลังจากที่ตนเองเกษียณแล้ว  เพราะเชื่อว่า  จะต้องหาช่องทางการออมเงินที่ “ได้ดอกเบี้ยสูง” แต่ “ไม่เสี่ยง” โดยการหลงเชื่อคนที่เข้ามาชักชวนให้ลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าที่ควรจะเป็น

เช่นเดียวกัน  ญาติทางฝ่ายภรรยาผมคนหนึ่งก็เคยถูกหลอกให้เข้าร่วมเวบหรือ “ไลน์ดร.นิเวศน์” และสูญเสียเงินไปหลายแสนบาทจนต้องมาขอความช่วยเหลือภรรยาผม  ผมเองก็ยังงงว่าทำไมตอนที่จะเข้าไปร่วมทำไมไม่ถามก่อนว่าผมมีไลน์แบบนั้นจริงไหมก่อนที่จะเข้าไปลงทุน

ปรากฎการณ์การโกงผ่านสื่อดิจิทัลนั้น  ผมคิดว่ามีเพิ่มขึ้นมหาศาล  เรียกว่าแทบจะดิสรัปช่องทางการโกงแบบอื่นได้เลยนั้น  เป็นวิธีการโกงที่ได้ผลตอบแทนสูงมาก  และผมคิดว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกจับและลงโทษต่ำมาก  อานิสงค์จากการที่ทางการไม่ตระหนักและตามไม่ทันพัฒนาการนี้  ซึ่งในทาง “ยีนศาสตร์” ที่ผมมักใช้ในการวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ  มันจะบอกว่า  คนก็จะโกงมากขึ้น  เพราะทำแล้วคุ้ม  หรือเรียกว่า  Risk/ Reward ดีมาก

เฉพาะเว็บหรือไลน์ปลอมที่ใช้ชื่อผมนั้น  ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่น้อยกว่าหลายสิบแห่ง  บางคนบอกว่ามีเป็นร้อย  และแน่นอน  ไม่ใช่ผมคนเดียวแต่มีนักลงทุนหรือคนที่อยู่ในแวดวงการลงทุนซึ่งรวมไปถึงเจ้าของหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนบางคนก็ถูกปลอมเพื่อหลอกให้คนเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์  ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหลักทรัพย์ปลอม  หุ้นปลอม  แพลทฟอร์มที่ใช้ซื้อขายหลักทรัพย์ปลอม ทุกอย่างปลอมหมด 

แต่คนที่เข้าไปร่วมเป็นสมาชิกกลับไม่รู้  ส่วนสำคัญก็คือ  ไม่เข้าใจเรื่องของตลาดทุนและตราสารต่าง ๆ  เลย  สนใจเพียงว่าจะหาผลตอบแทนที่ดีได้อย่างไร  บางคนก็เกิดจากความโลภ  แต่จำนวนมากนั้นแค่หวังจะให้มีเงินพอใช้หลังเกษียณ  แต่พอเข้าไปซักพักก็อาจจะกลายเป็นความโลภ  เพราะถูกหลอกด้วยตัวเลขที่ถูกปั้นแต่งขึ้น

ในช่วงแรกที่เริ่มมีการปลอมไลน์หรือเพจนั้น  ผมเคยไปแจ้งความสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันว่าผมไม่เกี่ยวและไม่เคยมีไลน์หรือเว็บสาธารณะ  ผมเกรงว่าถ้ามีการจับไลน์ปลอมนั้นผมอาจจะต้องเสียเวลาไปให้การเป็นพยานโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย  อยู่เฉย ๆ  นั่นคือเมื่อ 1-2 ปีมาแล้ว  ถึงวันนี้เว็บและไลน์ปลอมมีเป็นร้อย  ผมเองก็ยังเหมือนเดิมคือไม่มีเว็บและไลน์ของตนเอง  ผมเป็นคนโลว์เท็คและไม่ใช้เครื่องมือเหล่านั้นเพื่อติดต่อกับใคร  และก็ไม่แจ้งตำรวจอีกต่อไปแล้วเพราะเสียเวลา

ผมประกาศที่ตรงนี้เลยว่าผมไม่มีเว็บหรือไลน์อะไรทั้งสิ้น  ที่เห็นนั้นของปลอมหมด  และไม่ต้องไปเชื่อว่าผมต้อง “ตีสองหน้า”  ผมลงทุนมาหลายสิบปีและประสบความสำเร็จมีความมั่งคั่งสูงเกินกว่าที่จะมาทำเงินจากการแนะนำการลงทุนให้คนทั่วไปที่เข้ามาร่วมเป็นกลุ่มเพื่อหวังผลตอบแทนที่ผิดปกติและไม่จริง   แน่นอนว่าผมยังให้ความรู้ดังเช่นที่ผมทำมาตลอดหลายสิบปี  และเป็น  คนหน้าเดิมและหน้าเดียว  ไม่มีทางที่ผมจะเปลี่ยนหน้าเป็นอย่างอื่น

เขียนมาถึงตรงนี้ผมเองก็หวังว่า  ถ้ามีการจับเว็บหรือไลน์ปลอมใช้ชื่อผม  ทางตำรวจจะไม่มาถามอะไรผมเลย  เพราะผมไม่เกี่ยว  ผมควรจะอยู่ได้อย่างสงบตามที่ควรจะเป็น  และนี่ก็คงเหมือนกับการแจ้งบันทึกลงประจำวัน “ผ่านสื่อ” แทนที่จะต้องไปสถานีตำรวจซึ่งน่าจะได้ผลดีกว่าและไม่ทำให้ตำรวจต้องมาเสียเวลา  ขณะเดียวกันคนที่อ่านก็จะได้รู้และไม่หลงกลไปกับคนโกงกลุ่มนี้


VVI Membership  🇻🇳

ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://class.vietnamvi.com/

หรือ ติดตามเราได้ที่

– Line :@vietnamvi คลิ๊ก https://lin.ee/Jy9n680

– Website: https://www.vietnamvi.com

– Facebook:  https://www.facebook.com/vvinvestor

– Youtube:http://youtube.com/c/vietnamvi

– E-mail:info@vietnamvi.com